สีน้ำสำหรับเคลือบเสาหลักนำโค้ง
สีน้ำสำหรับเคลือบเสาหลักนำโค้ง แบบยางพารา และแผ่นยางพาราหุ้มแบริเออร์ (RUBBER FENDER BARRIER)
มอก 2321-2549 คลิกเพื่อดูใบรับรอง
เป็นสีน้ำชนิดพิเศษที่ผลิตภายใต้ข้อกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สีอิมัลชันทนสภาวะ มอก.2321-2549 แต่มีการพัฒนาคุณสมบัติของสีให้มีการยึดเกาะบนพื้นผิวที่มีความยืดหยุ่นสูงมากได้เป็นอย่างดีมากอีกด้วย ไม่เกิดการหลุดล่อนเมื่อมีการยึดหดตัวของยางภายใต้อุณหภูมิที่แตกต่างกันตามฤดูกาล ผลิตจากกาวชนิดพิเศษที่มีคุณภาพสูง สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ (SELF CLEANING) เมื่อน้ำไหลผ่านฝุ่น และคราบสกปรกจะไหลออก ไม่เกาะฟิล์มสี ใช้ผงสีที่มีคุณภาพสูง ป้องกันยูวีที่จะทำให้สีซีดจาง ป้องกันคราบเชื้อรา และตะไคร่น้ำได้เป็นอย่างดี มีอายุการใช้งานยาวนาน ปราศจากสารปรอท และสารตะกั่ว ฟิล์มสีเรียบเนียน ทาง่าย ทนทานต่อสภาวะดินฟ้าอากาศได้ดี ป้องกันน้ำซึมได้ดีเยี่ยม มีคุณสมบัติเด่น ดังนี้
- ฟิล์มสีแห้งเร็ว
- มีความยืดหยุ่นสูงมาก
- มีความทนทานต่อสภาวะดินฟ้าอากาศ ความชื้น และป้องกันน้ำซึมผ่านได้ดีเยี่ยม
- ฟิล์มสีเรียบเนียน
- ยึดเกาะกับพื้นผิวทุกประเภทได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะพื้นผิวที่เป็นยางพารา
- อายุการใช้งานยาวนาน
- ใช้งานง่าย เพราะเป็นสีน้ำ สีเหลือสามารถนำกลับมาใช้งานต่อได้
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นสีน้ำ
เหมาะสำหรับทำเคลือบบนผิวที่มีการยึดหดตัวสูง และทำเครื่องหมายผิวทางที่ต้องการความทนทานต่อการเสียดสีมากกว่าสีน้ำทั่วไป เช่น เสายางหลักนำโค้ง แบบยางพารา ยางแผ่นที่เคลือบบนแบริเออร์ (RUBBER FENDER BARRIER, RFB) ทางเท้า ฟุตบาท งานสัญลักษณ์ที่ต้องการความทนทานต่อการเสียดสีมากกว่าปกติ เป็นต้น
วิธีการใช้งาน
- เตรียมพื้นที่ที่จะเคลือบผิวให้สะอาด ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน จารบี
- ขัดผิวยางด้วยกระดาษทรายละเอียดให้ทั่ว(กรณีผิวยางมีความลื่นมาก) และล้างผิวออกด้วยทินเนอร์
- คนสีให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นสามารถจะทา หรือกลิ้งสีลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้ได้ทันที กรณีสีมีความหนืดมากไป สามารถผสมน้ำได้เล็กน้อยเท่านั้น
- กรณีพ่นด้วยกาพ่นสี เนื่องจากต้องผสมน้ำปริมาณที่มากกว่าการทา ซึ่งทำให้ฟิล์มาสีที่ได้กลบพื้นผิวได้ไม่ดี ควรจะรอสีให้แห้งก่อน และควรพ่นอย่างน้อย 2 รอบ เพื่อความสวยงาม และเรียบเนียนของฟิล์มสี แต่การแห้งตัวของสีจะช้าลงตามปริมาณน้ำที่อยู่ในเนื้อสี
- สีที่ทา หรือกลิ้งจะแห้งสัมผัส 45-60 นาที (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิบริเวณนั้น)
